“อื้อ..อย่าจับสิ จักจี้น่ะ”
ผมปัดมือหยาบกร้านที่กำลังเล่นซุกซนตรงต้นขา เฮ้อ..วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ ไม่มีอารมณ์จะสนใจอะไรทั้งนั้นล่ะ ขอนอนพักบ้างเหอะ
เมื่อเจ้าของมือปริศนาเห็นว่าผมไม่ได้ขัดขืน จึงเริ่มบีบเค้นเนื้อนิ่มอย่างมันเขี้ยว ระหว่างนั้นก็ใช้มืออีกข้างจับตรงแก่นกายกึ่งอ่อนกึ่งแข็งของผมไว้เกิดเสียงเนื้อเสียดสีกันท่ามกลางความเงียบ
พึ่บ..พึ่บ..
“ดะ..เดี๋ยว อ๊ะ! ตรงนั้น..ไม่ได้..”
ผมสะดุ้งเฮือก รีบจับมือนั้นไว้ไม่ให้ขยับ ร่างกายหนักอึ้งเกินกว่าจะต้านทานไหว ยิ่งเมื่อรู้ว่ามือใหญ่ของเขาสามารถกอบกุมของๆ ผมได้เต็มรอบ เวลาโดนสาวมันจึงอึดอัดเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“ยะ.. อย่า มะ อ๊ะ อ๊ะ อืมมม”
ริมฝีปากบางเปิดอ้า ครางเสียงหวานไม่เป็นภาษา ในหัวมึนๆ เบลอๆ จนไม่สามารถห้ามน้ำลายที่เอ่อล้นออกมาจากมุมปากได้
เขาคนนั้นทาบทับลงมาบนตัวผม ถกเสื้อผมขึ้นสูงแล้วใช้ฟันขบกัดไปตามซอกคอขาวไล่ต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงบริเวณหน้าอกเต่งตึงสีชมพูอ่อน เขากัดเม้มย้ำๆ อยู่อย่างนั้น ปิดท้ายด้วยการเลียปลอบประโลมมันอย่างแผ่วเบา
“เจ็บ..ผมเจ็บ...”
ผมกัดฟันแน่น น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายเอื้อมมือไปดึงผ้าปิดตาออก แต่ถูกเขาขัดขวางด้วยการใช้มือแค่ข้างเดียวรวบข้อมือเล็กๆ ของผมไว้ทั้งสองข้าง
ขยับไปไหนไม่ได้แล้ว
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเหตุการณ์คุ้นๆ เหมือนตอนที่ฝาแฝดกำลังลักหลับผมเลยครับ แค่ครั้งนี้มันทั้งร้อนแรงและดุดันกว่ามาก ต้องไม่ใช่แฝดแน่ๆ เพราะผมยังนอนอยู่บนเตียงของพี่หมอก
หรือว่าจะเป็น..พี่หมอก?
ไม่..ไม่ใช่ จะเป็นพี่หมอกไปได้ยังไงในเมื่อแกสัญญากับผมแล้วว่าจะไม่มีทางทำอะไรแบบนี้กับน้องชายตัวเองเด็ดขาด ถ้างั้นจะเป็นใครไปได้ล่ะ
หรือว่า!
ผมกำลังฝันเปียก!
ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ตอนนี้สมองของผมกำลังเบลอจากความเหนื่อยล้าเลยอาจจะเก็บเอาเรื่องที่โดนฝาแฝดลักหลับมาฝันก็ได้ แต่ทำไม..ฝันเปียกของผมถึงต้องเป็นผู้ชายด้วยล่ะครับเนี่ย
จ้วบ..จ้วบ..
“อื้ออ! ไม่เอา ระ..เร็วไปแล้ว”
เสียงชักรูดแก่นกายผสมกับเสียงจูบยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ผมเงยหน้าขึ้น มือที่จับแขนแกร่งไว้ปล่อยลงข้างตัว เขาคนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ซ้ำร้ายยังฉีกขาผมออกกว้างแล้วจับอะไรบางอย่างแข็งๆ มาถูไถที่บริเวณช่องทางรักของผมด้วย
“อืมมมม”
เขาครางต่ำในลำคอ น้ำหล่อลื่นเหนียวใสค่อยๆ ปริบออกมาจากปลายยอดเปื้อนแฉะไปทั่วปากทางเข้า ผมขยับก้นถอยห่างออกมาแต่ถูกเขาจับสะโพกไว้แล้วพลิกตัวผมนอนคว่ำลงกับเตียง
“เด็กดื้อ”
เพี๊ยะ!
“โอ้ย!”
มือใหญ่ตบเข้าที่แก้มก้นอย่างจัง ผมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แสบชาไปทั่วทั้งก้นเลยครับ แทนที่ความเจ็บปวดจะทำให้ผมหมดอารมณ์มันยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้น แก่นกายที่กำลังโดนรุกล้ำกระตุกเกร็งเป็นสัญญาณว่าผมพร้อมจะปลดปล่อยแล้ว
“ตะ..แตก อ๊ะ อ๊ะ จะแตกแล้ว อื้อออ!”
ผมกำผ้าปูเตียงแน่น ปลดปล่อยน้ำกามออกมาเลอะเต็มเตียง เขาเห็นว่าผมเสร็จแล้วจึงใช้นิ้วที่เลอะน้ำกามของผม ค่อยๆ กดเข้าไปในช่องทางคับแคบ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงนิ้วมือก็ไม่สามารถสอดใส่เข้าไปได้ลึกกว่านี้ เขาจึงทำได้เพียงชักรูดแท่งร้อนของตัวเองจ่อไปที่ช่องทางของผมเท่านั้น
“เมฆ..เมฆ..ดี อื้มมมม”
เขาบีบขยำเนื้อแน่นๆ ตรงแก้มก้น ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งใส่รูก้นของผมเต็มแรง เขาร้องเรียกชื่อผมซ้ำไปซ้ำมาระหว่างน้ำแตก ผมเหนื่อยเกินกว่าจะรับรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
“แฮ่ก แฮ่ก”
ผมนอนหอบหายใจเหนื่อยโดยยังคงเด้งก้นค้างไว้ ทำให้น้ำกามค่อยๆ ไหลย้อยลงมาถึงต้นขา เขาเช็ดทำความสะอาดและใส่กางเกงให้ผม จากนั้นกระซิบข้างหูด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“ขอโทษ กูทนไม่ไหวจริงๆ”
เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหัว พร้อมกับสติของผมที่ดับวูบไป
"เห้ย! "
ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ หันไปมองรอบห้องก็พบกับแสงแดดในยามเช้าลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
ฝันเหรอ..?
ร่างเล็กถกเสื้อและกางเกงขาสั้นขึ้นเพื่อสำรวจร่างกายอย่างละเอียด ตามเนื้อตัวยังคงมีรอยแดงจางๆ ที่ฝาแฝดฝากไว้เมื่อคืนกับรอยกัดตรงหัวนมอีกนิดหน่อย
เอ๊ะ.. ผมว่ารอยกัดตรงนี้มันแปลกๆ นะครับ มันแดงมากจนผมอดคิดไม่ได้ว่าเพิ่งจะถูกฝากรอยไว้เมื่อไม่กี่ ชม. มานี้เอง
"เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย งง"
"งงอะไร? "
"เชี่ย..! " ผมตกใจที่มีเสียงผู้ชายตอบกลับมา พอหันไปตามต้นเสียงก็เจอกับร่างสูงของพี่หมอกซึ่งตอนนี้กำลังเปลือยท่อนบน ตามมัดกล้ามมีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายและมีผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนไหล่ครับ
"พี่หมอก.."
"เออ กูเอง ตกใจอะไรของมึง"
"คือว่า เมื่อคืน.."
"เมื่อคืน? " พี่หมอกเลิกคิ้ว "เมื่อคืนทำไม"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร แหะๆ " ผมเกาหัวแก้เขิน สงสัยคงจะฝันจริงๆ นั่นแหละ ปัญหาคือ..พี่หมอกจะรู้ไหมนะว่าผมฝันเปียกบนเตียงแกเนี่ย
"อ้อ พูดถึงเมื่อคืน.." พี่หมอกเว้นช่วงแล้วหันมายิ้มมุมปากให้ผม "เมฆ มึงแม่ง.."
"ทะ..ทำไมครับ เมฆ ทำไม" ผมทำหน้าเลิ่กลั่น อย่าบอกนะว่าพี่หมอกเห็นอ่ะ!
"..นอนดิ้นชิบหาย กูโดนมึงถีบตั้งหลายที"
ผมถอนหายใจโล่งอก
"ทำไม มึงจำไม่ได้? "
"พอดีเมื่อวานเมฆมึนๆ อ่าครับ ก็เลยจำอะไรไม่ค่อยได้"
"เออ กูเชื่อว่ามึงจำอะไรไม่ได้จริงๆ "
"ครับ? "
"แล้วจะนั่งแบบนี้อีกนานมั้ย รีบไปอาบน้ำจะได้ลงไปหาทนาย"
"ครับๆ " ผมทำท่าจะวิ่งเข้าห้องน้ำแต่ถูกพี่หมอกห้ามไว้ก่อน
"เดี๋ยว"
"ครับพี่? "
พี่หมอกเดินไปแต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ก่อนจะยกตัวผมขึ้นแล้วเปิดประตูโยนผมออกนอกห้อง
"ไปอาบน้ำห้องอื่น กูให้มึงอยู่ได้แค่นี้"
"ตัวเล็ก!? "
ทันทีที่ผมก้าวเท้าออกมา โยในชุดไปรเวทก็รีบวิ่งเข้ามาหาผม
"ไอ้เวย์! ตัวเล็กออกมาแล้ว มึงมาดูเร็ว" โยกวักมือเรียกน้องชายฝาแฝด
"ตัวเล็ก! เป็นไงบ้าง ยังไม่ตายใช่มั้ย!? ตอบสิ ตัวเล็ก ตัวเล็กกก!! " พวกมันรุมเขย่าคอเสื้อผมอย่างแรง
"กูจะตายเพราะพวกมึงนี่ล่ะ ปล่อย! " ผมปัดมือสองฝาแฝดออกแต่มันยังไม่หยุดจ้องผมครับ
"มีอะไร" ผมถาม
"เมื่อคืน โดนพี่หมอกทำอะไรมั้ยอ่ะ"
"ทำอะไร งง"
"แบบว่า.."
"ทำไมหมอกต้องทำอะไรน้อง? "เสียงทุ้มน่าฟังของใครบางคนดังแทรกขึ้นมา ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ครับว่าเจ้าของเสียงสวรรค์นี้เป็นใคร
"พี่จูน.." แฝดกลืนน้ำลายเฮือกเมื่อร่างสูงโปร่งของพี่จูนเดินออกมาจากประตูห้อง
วันนี้แกใส่ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กางเกงขายาวสีดำครับ หล่อยิ่งกว่าผู้ชายคนไหนที่ผมเคยเห็นมาซะอีก ขนาดผมเป็นผู้ชายยังแอบใจเต้นนิดๆ เลยครับ
"เมฆ เกิดอะไรขึ้นครับ" พี่จูนรีบเดินเข้ามาลูบหัวผมด้วยความเป็นห่วง พอเขาเห็นรอยแดงตามต้นคอของผมก็เหลือบตาไปมองฝาแฝดทันที "แฝด พวกมึงทำอะไรน้อง"
"คือว่า.."
"กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำน้อง" พี่จูนกุมขมับ "เมฆ พี่ขอโทษแทนพวกมันด้วยนะ"
"ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ" ผมรีบโบกมือปฏิเสธ อยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าพี่จูนไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดกับสิ่งเลวๆ ที่ไอ้แฝดมันทำไว้หรอกครับ เดี๋ยวร่างเนื้ออันบริสุทธิ์ผุดผ่องของพี่จะมีมลทินซะเปล่าๆ
"แฝด เดือนนี้พวกมึงเป็นเวรทิ้งขยะ ทั้งเดือน"
"ม่ายยยย" แฝดทรุดนั่งลงกับพื้น กอดขาพี่จูนคนละข้าง "ไม่นะพี่! พี่ก็รู้ว่าขยะมันสกปรกอ่ะ!! "
สกปรกไม่เท่าจิตใจพวกมึงหรอก ผมยิ้มกรุ้มกริ่มในใจ เห็นด้วยกับบทลงโทษของพี่จูนเต็มที่
"ลงโทษอย่างอื่นแทนไม่ได้เหรอพี่ ตัดค่าขนมก็ได้ นะๆๆ "
"ใช่ๆ โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะครับ" ไอ้แฝดแทบจะก้มลงกราบเท้าพี่จูนอยู่แล้วครับ พวกมันกลัวการทิ้งขยะขนาดนั้นเลยเหรอ
"ตามนั้น หรือมึงอยากให้หมอกลงโทษแทนกู"
ฝาแฝดส่ายหน้า พร้อมใจกันเงียบกริบ
หลังจากนั้นพี่จูนก็เดินหายเข้าไปในห้องตัวเองแล้วกลับออกมาพร้อมเสื้อกันหนาวคอเต่าสีฟ้า
"พี่ให้"
"ให้ผม..? " ผมชี้ไปที่ตัวเอง พี่จูนพยักหน้าน้อยๆ
"เดี๋ยวเมฆอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อตัวนี้ปิดรอยตรงคอไว้นะครับ แล้วก็ไม่ต้องเอามาคืนพี่ ถือว่าพี่ให้เป็นของขวัญ" พี่จูนส่งยิ้มอ่อนโยนให้ผม
"ขอบคุณครับพี่จูน" ผมไหว้ขอบคุณแกไปหนึ่งทีก่อนจะรับเสื้อกันหนาวมาไว้ในอ้อมกอด แอบได้กลิ่นแอปเปิ้ลเขียวจางๆ บนเสื้อตัวนี้ด้วยครับ
อา...กลิ่นหอมของพี่จูน อยากเอาเสื้อมาสูดดมทั้งวันทั้งคืนเลยครับ
"ตกลงจะเล่าได้หรือยังว่ามันเกิดไรขึ้น" พี่จูนหันมาถามฝาแฝด
"คือพวกผม..อยากแกล้งน้องมันอ่ะ ก็เลยขโมยกุญแจจากพี่ซินมา" ไอ้แฝด! ไหนมึงโม้นักหนาว่าเป็นเด็กวิศวะไงวะ ที่แท้ก็แอบขโมยกุญแจมาไขห้องกูเนี่ยนะ!!
ผมกำหมัดแน่น อยากต่อยหน้าพวกมันไปสักหมัดจริงๆ ครับ ว่าแต่..พี่ซินคือใครหว่า
"แต่พวกผมยังไม่ได้ทำอะไรน้องมันเลยนะ พี่หมอกดันเข้ามาขัดจังหวะซะก่อนอ่าดิ" โยตอบ
"ใช่ๆ " เวย์พยักหน้าเสริม พี่จูนตั้งใจฟังด้วยความใจเย็นก่อนจะหันมาทางผมบ้าง
"หมอกได้ทำอะไรเราไหมครับ"
"เปล่านะครับ ปกติดี"
"อะไรนะ ปกติดี!? "ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งชายหนุ่มแปลกหน้าสองคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง
"พูดจริงเหรอ..ไม่โดน...อะไร จริงๆ เหรอ.." ผู้ชายหนึ่งในนั้นเดินมาหาผม เขาย้อมผมสีบรอนด์เทาสว่าง เจาะหูเยอะมากและน้ำเสียงของเขายานคางคล้ายกับเสียงกระซิบ
เขาค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมจนจมูกแทบชนกัน ผมรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
"ปูเป้ อย่ายื่นหน้าเข้าไปใกล้น้อง" พี่จูนเรียกคนๆ นั้นว่า'ปูเป้'ก่อนจะดึงเขาออกไป
“นี่!” ผู้ชายร่างสูงอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาจับไหล่ผม "ที่เธอพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง เธอนอนกับหมอกเหรอ"
"ผมหมายถึง.." พูดยังไม่ทันจบประโยค ผมก็ต้องตกตะลึงในความงดงามของผู้ชายคนนี้ครับ เขาสูงพอๆ กับพี่จูน ไว้ผมแสกกลางสีน้ำตาลแดงยาวถึงหัวไหล่ ริมฝีปากหนาอวบอิ่มทั้งบนและล่าง แลดูน่าจุ๊บมากครับ
"ถามก็ตอบมาสิ! ทำไม เป็นใบ้เหรอ? " เขาจิกตาใส่ผมอย่างหงุดหงิด
"พี่ซินใจเย็นๆ "
"อย่าว่าตัวเล็กดิ" แฝดเข้ามาห้าม
"ตกลงหมอกได้ทำอะไรเธอมั้ย ตอบมาเร็วๆ! " พี่ซินกอดอกคาดคั้นคำตอบจากผม
"ไม่ได้ทำครับ เมื่อคืนผมแค่ขอนอนกับพี่หมอก"
"นี่เธอ..ขอหมอกนอนด้วยงั้นเหรอ! " พี่ซินกับคนอื่นๆ ทำหน้าตกใจมาก "แล้วเขาก็ยอมให้เธอเข้าห้อง? "
"ใช่ครับ"
"เชี่ย.." แฝดอุทานขึ้นพร้อมกัน
"หลังจากนั้นล่ะ? " พี่ซินถามต่อ "เขาทำไรเธอไหม เช่น ตบตีเธอ หรือทำร้ายเธอ" ผมขมวดคิ้วกับคำว่า ทำร้าย
"ไม่นะครับ ก็แค่นอนกอดกันเฉยๆ "
"นอนกอด!! " ทุกคนอ้าปากค้าง
"คนอย่างหมอกเนี่ยนะจะนอนกอดคนอื่นเฉยๆ บ้า.. บ้าไปแล้ว ฉันไม่เชื่อ! " พี่ซินเดินกระทืบเท้าลงบันไดเสียงตึงตัง ก่อนไปไม่วายใช้ไหล่กระแทกผมจนร่างเซล้มไปในอ้อมแขนของพี่จูน
ผมเงยหน้ามองพี่จูนอย่างงงๆ เขาตบไหล่ผมเป็นเชิงขอโทษ
"คนเมื่อกี้ชื่อ ซิน เป็นพี่ชายของเราเหมือนกัน"
"แล้วทำไมเขาดูโกรธผมจังเลยอ่ะครับ" นี่ผมไปทำอะไรให้พี่ซินไม่พอใจหรือเปล่านะ
"เมฆอย่าไปถือสาซินเลยนะ พอดีว่าเขาชอบหมอกมากๆ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอกก็จะโมโหง่ายแบบนี้ล่ะ"
"ใช่ๆ คงจะอิจฉาตัวเล็กที่ได้นอนกอดพี่หมอก" ฝาแฝดตอบ
"อ้าว ปกติพี่หมอกไม่ทำแบบนี้กับใครเหรอครับ? "
ทุกคนพยักหน้าแทนคำตอบ
"พี่เคยขอ..พี่หมอก...นอนด้วยนะ...เพราะตอนนั้น..นอน...ไม่หลับ..และไม่มีใครอยู่บ้าน แต่ก็..ถูกไล่กลับมา" คนชื่อปูเป้พูดด้วยสีหน้างัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน
"พี่หมอก...แกเอา..ที่เขี่ยบุหรี่...เขวี้ยงใส่หัวพี่..จนแตก"
"หะ! จะ..จริงเหรอครับ"
"จริงๆ นะตัวเล็ก พวกเรายังสยองไม่หาย เลือดงี้สาดเต็มพื้น เย็บไปกี่เข็มนะพี่เป้"
"ห้า.."
"ห้าเลยเหรอครับ" ผมอ้าปากค้าง
"อืม" พี่เป้พยักหน้าเรียบๆ ดูไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่
"ส่วนพวกเราอ่านะ เคยทำพี่หมอกตื่นกลางดึกครั้งนึง รู้มั้ยว่าพี่หมอกทำไง" ฝาแฝดหน้าซีดเผือก "แกจับพวกเราขึงไว้กับโต๊ะ แล้วก็ฟาดพวกเราด้วยแส้ ทั้งคืน! ขนาดสลบไปแล้วตื่นขึ้นมาใหม่..แกยังฟาดพวกเราต่อเลยอ่ะตัวเล็ก คิดดูสิ! "
"จริง แผลเป็นตรงกลางหลังยังอยู่เลย ดูดิ" เวย์ถอดเสื้อ หันหลังให้ผมดูรอยแผลเป็นลากยาวตั้งแต่ไหล่ถึงเอว
โอ้โห! นี่มันรอยแส้ชัดๆ ว่าแล้วเชียว ทำไมฝาแฝดถึงได้เกรงกลัวพี่หมอกนัก ที่แท้เป็นเพราะแบบนี้เอง แต่เดี๋ยวก่อนนะ แล้วที่ผมนอนดิ้นถีบพี่หมอกไปทั้งคืนอ่ะ ผมจะโดนอะไรมั้ยครับทุกคน!
ถึงคุณแม่บนสวรรค์ เมฆอาจจะตามคุณแม่ขึ้นสวรรค์ไปเร็วๆ นี้ล่ะครับ